สื่อโฆษณากลางแจ้งหรือบิลบอร์ดรูปเด็กทารกและมีคำว่า "รู้มั้ยผมลูกใครครับ...ก็ลูกค้าสินทรัพย์ไง" คงมีหลายคนจำจดโฆษณาดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นวิธีการหักมุมการสร้างแบรนด์ของบริษัทสินทรัพย์ประกันภัย
"การโฆษณาเพื่อสร้างแบรนด์ต้องใช้อะไรที่สื่อภาพให้ติดตาและสร้างการจดจำ นั่นก็คือ เด็ก" ดร.สมนึก สงวนสิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัทสินทรัพย์ประกันภัย จำกัด กล่าวและอธิบายว่า
เราเลือกสร้างแบรนด์จากเด็ก ตอนเริ่มทำบิลบอร์ดเด็กอายุ 6 เดือน ตอนนี้เด็กอายุ 2 ปี ซึ่งจะใช้เด็กคนเดิมมาถ่าย ทำให้เห็นว่าบริษัทสินทรัพย์ประกันภัยเติบโตขนาดไหน เพื่อให้แบรนด์เทียบแบรนด์
เขาบอกว่า เมื่อลูกค้าและคนทั่วไปจดจำเด็กคนนั้นได้ย่อมต้องติดตาว่าถ้าจดจำสินทรัพย์ประกันภัยได้ก็จดจำเด็กได้ หรือจดจำเด็กได้ก็จดจำสินทรัพย์ประกันภัย โดยพยายามสร้างสื่อให้สอดคล้องกัน เพราะการสร้างแบรนด์ให้ติดตาเป็นเรื่องที่ยาก อาจต้องใช้เวลา 30-40 ปี
การใช้เด็กมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อโฆษณาผ่านบิลบอร์ด ดร.สมนึก ให้เหตุผลว่า บริษัทประกันภัยแต่ละแห่งจะสื่อโฆษณาในเรื่องของความเสียหาย ความเศร้า และมองว่าทำไมต้องนำความเศร้ามาซ้ำเติมในภาพโฆษณา จึงคิดฉีกแนวโดยใช้เด็กมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสดชื่น และความสุขที่มีประกันภัย
นอกเหนือจากใช้สื่อโฆษณากลางแจ้งเพื่อสร้างแบรนด์แล้วยังมีการใช้สื่อโฆษณาผ่านรายการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นรายการ "ความรู้คู่สินทรัพย์" ออกอากาศทางช่อง 11 ในวันจันทร์-วันพุธ-วันศุกร์ ประมาณ 20 นาที ในช่วงหลังข่าวภาคค่ำ เพื่อให้ความรู้ทางด้านประกันภัย
"ผมไม่ได้โฆษณาแต่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ตัวเองและบริษัทฯ เพราะหากผู้บริหารดำเนินรายการเอง จะทำให้สร้างความเชื่อถือของบริษัทฯมากขึ้น และในปีนี้จะทำต่อไป เพราะติดตลาดเร็วมาก มีคนรู้จักเพิ่มขึ้น" เขากล่าว
ขณะที่บริษัทสินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) เน้นใช้สื่อโฆษณาผ่านทางบิลบอร์ดเช่นกันและเป็นแคมเปญที่ได้ผลสำเร็จมากพอสมควร เพราะมีคนจำจดได้มาก โดยเน้นเรื่องความรวดเร็วในการให้บริการด้วยการการันตีมาตรฐาน ถ้าหากไปให้บริการเกิน 20 นาที จะมีการชดเชยในรูปแบบต่าง ๆ ให้กับลูกค้าของบริษัทฯ
นายเรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แคมเปญสปีดการันตี 1 ถ้าไปถึงช้ากว่า 20 นาที จะมีการชดเชยอะไรบ้าง ได้แก่ ชดเชยเงิน 200 บาทต่อ 1 ครั้ง แต่ตอนนี้เปลี่ยนการชดเชยเป็นกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล(พีเอ) ทุนประกัน 100,000 บาท เพื่อทำให้ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้น และสร้างความแตกต่างในธุรกิจ
ทางด้านนางสาวศิริกุล เลากัยกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท Enterprise IG จำกัด มองว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทประกันวินาศภัยจะใช้สื่อโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์มากกว่าสื่อโทรทัศน์ เพราะคุ้มค่าและได้ผลมากกว่า รวมไปถึงมีการใช้สื่อโฆษณากลางแจ้ง แต่ไม่หวือหวามากนัก ถือเป็นสื่อที่ คุ้มค่าที่สุด เพราะลงทุนเพียงครั้งเดียวแต่ใช้ได้นานทำให้เกิดการจดจำและนึกถึงบริษัทประกันภัยที่ใช้สื่อโฆษณาเหล่านั้น